🤔 ทำไมทำอะไรก็ไม่สำเร็จ ทำไม ทำแล้วก็ล้มไม่เป็นท่า จะตั้งเป้าหมายยังไงให้สำเร็จ วัดผลได้จริง แถมเป็นไปได้ ในกรอบเวลาที่ต้องการ
.
วันนี้โนบูโร 💙 นำเอาวิธีการตั้งเป้าหมายด้วยหลัก SMART มาบอกเล่าให้ฟัง แค่ทำตามได้ก็สามารถเอาไปปรับใช้กับเรื่องอื่นๆ ในชีวิตได้แล้ว
.
ก่อนอื่นเรามารู้จักกันก่อนว่าการตั้งเป้าหมายด้วยหลัก SMART คืออะไร โดยเราจะยกตัวอย่างในการตั้งเป้าหมาย 1 เรื่องมาเล่าให้ฟัง เช่น ถ้าเราอยากเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวเพื่อหารายได้เสริมเราจะเริ่มตั้งเป้าหมายยังไง ตามหลัก SMART ถ้าพร้อมแล้วมาแบ่งดั่งนี้เลย
.
S = Specific – ชัดเจน
รู้ว่าต้องการอะไร โดยระบุเป็นรูปธรรม เช่น อยากเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวหน้าบ้านเพื่อสร้างรายได้และมีเงินเก็บ
.
M = Measurable – วัดผลได้
รู้ว่าต้องการที่จะบรรลุเป้าหมายดังกล่าว เช่น อยากให้ร้านก๋วยเตี๋ยวของเรามีรายได้ต่อเดือน จำนวน 2 หมื่นบาท หลังหักค่าใช้จ่ายแล้ว
.
A = Achievable – ทำสำเร็จได้
รู้ว่าจะทำอย่างไรให้บรรลุผลตามเป้าหมายที่วางไว้ ทั้งนี้ความสำเร็จของเป้าหมายจะเกิดขึ้นได้ภายใต้ัปัจจัยที่เราสามารถควบคุมได้ เช่น อยากมีร้านก๋วยเตี๋ยว และให้มีรายได้ ต้องเก็บเงินเดือนล่ะ 2,000 บาท จำนวน 3 เดือน เพื่อซื้ออุปกรณ์สำหรับเปิดร้าน และพยายามทยอยซื้ออุปกรณ์เข้าในร้าน และศึกษาแผนการตลาดไว้ล่วงหน้าก่อนร้านเปิดจริง รวมถึงช่องทางส่งอาหารผ่านไรเดอร์
.
R = Realistic – สามารถบรรลุผลได้
อย่างสมเหตุสมผลภายใต้สถานะทางการเงินและข้อจำกัดต่างๆ ที่มีในปัจจุบันรวมถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เช่น หากอยากให้ร้านอยู่ได้ต้องมีกำไรต่อวัน 66 บาท เป็นยอดขั้นต่ำ และหากช่วงไหนที่ไม่มีลูกค้าต้องดูตลาดออนไลน์ไว้เผื่อด้วย เพราะยอดต่อเดือนต้องให้ได้มากกว่า 2 หมื่นบาท
.
T = time-bound – มีกำหนดเวลาที่ชัดเจนแน่นอน
เพื่อไม่ให้เป้าหมายการเงินที่ต้องการลอยเลื่อนออกไปอย่างไม่มีวันสำเร็จ เช่น จะมียอดขาย 1 แสนบาท ให้ได้ภายในปีนี้ เพื่อคืนทุนที่ลงไป
.
แค่เรากำหนด หลัก SMART ทำให้เราเห็นแผนที่เราเขียนไว้ ไม่ว่าจะเจออุปสรรคขนาดไหนเราก็ปรับเปลี่ยนแผนได้ตามสถานการณ์แถมเห็นเป้าหมายชัดเจนอีกด้วย ไม่หลงทาง วัดแผนได้ ทำได้สำเร็จ เป้นไปได้จริง ตามกำหนดเวลาที่วางไว้ด้วย
.
Comments